Smart and Bright

การตรวจสอบและประเมินหน้างานก่อนทำการเสริมกำลังด้วย CFRP

     การเสริมกำลังโครงสร้างด้วยคาร์บอนไฟเบอร์เสริมโพลิเมอร์ (CFRP) เป็นเทคนิคที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มความแข็งแรงและความมั่นคงของโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กและพื้นโพสต์เทนชั่น อย่างไรก็ตาม ก่อนดำเนินการเสริมกำลังด้วย CFRP จำเป็นต้องมีการตรวจสอบและประเมินหน้างานอย่างละเอียดเพื่อให้การเสริมกำลังเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย​

ความสำคัญของการตรวจสอบและประเมินหน้างาน

     การตรวจสอบและประเมินหน้างานเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้วิศวกรและผู้เกี่ยวข้องเข้าใจสภาพปัจจุบันของโครงสร้าง รวมถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งจะเป็นข้อมูลพื้นฐานในการวางแผนและออกแบบการเสริมกำลังด้วย CFRP อย่างเหมาะสม​

ขั้นตอนการตรวจสอบและประเมินหน้างาน

  1. ศึกษาความต้องการและวัตถุประสงค์ในการเสริมกำลัง
      • เปลี่ยนแปลงการใช้งานอาคาร​
      • เพิ่มกำลังการรับน้ำหนักของพื้น คาน และเสา​
      • แก้ปัญหางานก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน​
      • ติดตั้งเครื่องจักรใหม่​
      • ต้านทานแรงแผ่นดินไหว​
      • ชดเชยเหล็กเสริมที่หายไปหรือไม่ครบถ้วน​
      • เพิ่มการรับน้ำหนักจรของอาคารหรือพื้นถนน​
      • ชดเชยโมเมนต์ลบที่หัวเสาและโมเมนต์บวกที่ใต้ท้องพื้น​
      • แก้ปัญหาพื้นที่มีการเจาะรูจำนวนมาก​
      • แก้ปัญหาในการรับกำลังของแผ่นพื้น Hollow Core​
      • แก้ปัญหารอยแตกร้าวจากการวางเหล็กบนผิดตำแหน่ง​
      • ป้องกันรอยฉีกขาดของโครงสร้างโบราณสถานที่ทำจากไม้เนื้อแข็ง​
    1. การตรวจสอบสภาพโครงสร้างปัจจุบัน
      • การตรวจสอบด้วยสายตา (Visual Inspection): สำรวจสภาพความเสียหาย เช่น รอยแตกร้าว การหลุดร่อนของคอนกรีต และการกัดกร่อนของเหล็กเสริม​
      • การทดสอบกำลังอัดของคอนกรีต (Compressive Strength Test): ใช้เครื่อง Schmidt’s Hammer หรือการเจาะเก็บตัวอย่างคอนกรีต (Coring) เพื่อนำมากดทดสอบในห้องปฏิบัติการ ​
      • การตรวจสอบรายละเอียดเหล็กเสริม: ใช้เครื่อง Ferro Scan หรือ Ground Penetrating Radar (GPR) เพื่อตรวจสอบตำแหน่งและปริมาณเหล็กเสริมในโครงสร้าง ​ฐานข้อมูลงานวิจัย มหาวิทยาลัยสยาม
    2. การทดสอบความสามารถในการยึดเกาะของคอนกรีต
      • การทดสอบ Pull-Off Test: เพื่อประเมินความสามารถในการยึดเกาะของคอนกรีตว่ามีค่ามากกว่า 1.5 MPa หรือไม่ หากไม่ถึงค่าที่กำหนด จำเป็นต้องปรับปรุงผิวหน้าคอนกรีตใหม่​
    3. การตรวจสอบความชื้นของผิวคอนกรีต
      • ใช้เครื่อง Concrete Moisture Meter วัดค่าความชื้นของผิวคอนกรีต ซึ่งควรมีค่าไม่เกิน 4% เพื่อให้แน่ใจว่าผิวคอนกรีตแห้งเพียงพอสำหรับการติดตั้ง CFRP​
    4. การตรวจสอบและซ่อมแซมรอยแตกร้าว
      • หากพบรอยแตกร้าวที่มีความกว้างเกิน 0.3 มม. ควรดำเนินการซ่อมแซมด้วยการอัดฉีดอีพ็อกซี่ (Epoxy Injection) เพื่อฟื้นฟูความแข็งแรงของโครงสร้าง​
    5. การตรวจสอบความเสียหายอื่น ๆ ของโครงสร้าง
      • หากพบการหลุดร่อนของคอนกรีต (Spalling) หรือการกัดกร่อนจากคาร์บอเนชั่น (Carbonation Attack) ควรดำเนินการซ่อมแซมโครงสร้างก่อนการติดตั้ง CFRP​
    6. การตรวจสอบงานระบบที่เกี่ยวข้อง
      • ตรวจสอบตำแหน่งงานระบบไฟฟ้า ประปา และระบบอื่น ๆ ที่อาจกีดขวางการติดตั้ง CFRP หากพบปัญหา ควรแจ้งให้ผู้ออกแบบทราบเพื่อหาวิธีการแก้ไข​
    7. การเตรียมพื้นที่หน้างาน
      • ตรวจสอบความพร้อมของพื้นที่สำหรับการติดตั้งนั่งร้าน การขนย้ายอุปกรณ์ และการจัดเตรียมแหล่งจ่ายไฟฟ้าที่เพียงพอสำหรับการดำเนินงาน​

สรุป:

      การตรวจสอบและประเมินหน้างานก่อนการเสริมกำลังด้วย CFRP เป็นขั้นตอนที่สำคัญในการรับรองว่าการเสริมกำลังจะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย การดำเนินการตามขั้นตอนที่กล่าวมาข้างต้นจะช่วยให้โครงสร้างที่ได้รับการเสริมกำลังมีความแข็งแรงและมั่นคงตามที่ต้องการ​

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือคำปรึกษาเกี่ยวกับการเสริมกำลังโครงสร้างด้วย CFRP สามารถติดต่อบริษัท สมาร์ท แอนด์ ไบรท์ จำกัด ซึ่งมีทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้บริการตั้งแต่การสำรวจ วิเคราะห์ ออกแบบ วางแผนการซ่อ

 

สอบถามบริการเสริมกำลังด้วย CFRP บริษัท สมาร์ท แอนด์ ไบรท์ จำกัด

📱 Line: @smartandbright
📞 โทร: 088-791-4494
🌐 Facebook: smartandbright